ผลกระทบจีน lockdown!!

ผลกระทบจีน lockdown!!

เศรษฐศาสตร์

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 28 ต.ค.65 ปิดที่ 1,606.07 จุด เพิ่มขึ้น 3.74 จุด มีมูลค่าซื้อขาย 55,160.19 ล้านบาท ต่างชาติซื้อสุทธิ 2,880.53 ล้านบาท

หุ้นมูลค่าซื้อขายสูงสุด PTTEP ปิด 180.50 บาท บวก 4.50 บาท, DELTA ปิด 594.00 บาท บวก 36.00 บาท, PTT ปิด 36.00 บาท บวก 0.50 บาท, JKN ปิด 4.82 บาท ลบ 0.78 บาท, OR ปิด 24.20 บาท บวก 0.10 บาท

บล.ดาโอ (ประเทศไทย) ออกบทวิเคราะห์ระบุว่า จีนประกาศ lockdown หลังตัวเลขผู้ติดเชื้อใหม่เพิ่มขึ้น โดยหลายเมืองพบผู้ติดเชื้อใหม่ต่อวันเพิ่มขึ้นมากกว่า 1,000 คน/วัน ในช่วง 3 วันที่ผ่านมา โดยการประกาศ lockdown มีขึ้นในหลายเมือง อาทิ Wuhan, Guangzhou, Xinning นอกจากนี้ ยังมีเมืองอื่นๆที่ได้ประกาศ lockdown ไปก่อนหน้านี้รวมกันกว่า 28 เมือง โดยประเมินว่ามีประชาชนได้รับผลกระทบจากมาตรการนี้ราว 207.7 ล้านคน คิดเป็น 25% ของ GDP จีนในปี 64

ดังนั้นมองเป็น sentiment เชิงลบต่อหุ้นที่มีรายได้ที่พึ่งพิงเศรษฐกิจจากจีน จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนที่คาดการณ์ช้ากว่าเดิมได้ โดยประเมินหุ้นที่จะมีผลกระทบเชิงลบมากสุด ได้แก่ WICE และ HANA

สำหรับ sector ที่ประเมินว่าจะได้รับผลกระทบเชิงลบมากสุด ได้แก่ กลุ่มโลจิสติกส์ (WICE, LEO, III) และเดินเรือ (RCL, PSL, TTA) จะได้รับผลกระทบจากความต้องการขนส่งสินค้าที่ลดลง ส่งผลให้ปริมาณขนส่งสินค้าฟื้นตัวช้า และดัชนีค่าระวางเรือที่ยังชะลอตัว โดยประเมิน WICE จะมีสัดส่วนรายได้จากเส้นทางจีนราว 20% (แนะซื้อให้เป้า 15 บาท)

กลุ่ม Electronics ได้รับผลกระทบจากสัดส่วนการขายไปยังลูกค้าในจีนที่อาจชะลอตัวลง โดยมีหุ้นที่ได้รับผลกระทบคือ HANA มีสัดส่วนรายได้จากลูกค้าในจีนที่ 20% (แนะถือให้เป้า 47.00 บาท) และ KCE มีสัดส่วนรายได้จากลูกค้าในจีนที่ 11% ของยอดขาย (แนะถือให้เป้า 58 บาท)

กลุ่มพลังงาน (SPRC, TOP, BCP, ESSO) จะได้รับผลกระทบจากการฟื้นตัวของอุปสงค์การใช้ผลิตภัณฑ์น้ำมันสำเร็จรูปที่ช้าลง อีกทั้งมีแรงกดดันที่เป็นไปได้จากการที่จีนจะยังคงโควตาการส่งออกผลิตภัณฑ์น้ำมันสำเร็จรูปในระดับที่สูง

กลุ่มปิโตรเคมี (PTTGC, IRPC, SCC) จะได้รับผลกระทบจากอุปสงค์การใช้ผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีที่ยังคงอ่อนแอ เนื่องจากจีนเป็นผู้นำเข้าสุทธิของผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่ อีกทั้งอัตราการใช้กำลังการผลิตก็มีแนวโน้มทรงตัวต่ำจากอุปทานใหม่ที่เข้ามา!!